น้ำมันกระเทียมสกัดเย็น คุณประโยชน์มากล้นที่คุณต้องถามแล้ววันนี้
ประโยชน์ของน้ำมันกระเทียม
- ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันเพราะปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคหัวใจส่วนใหญ่ เนื่องมาจากการสะสมเกาะตัวของไขมันที่ผนังหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งกระเทียมมีส่วนช่วยลดปริมาณโคเลสเตอรอลในกระแสเลือด จากการวิจัยพบว่าสารประกอบซัลเฟอร์ในกระเทียมโดยเฉพาะอัลลิซิน สามารถลดปริมาณโคเลสเตอรอลรวม และ โคเลสเตอรอลชนิดร้าย (LDL-cholesterol) ได้ดีเพราะอัลลิซินสามารถยับยั้งการทำงานของ HMG-COA reductase ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ใช้ในการสังเคราะห์โคเลสเตอรอล สำหรับกรณีผู้ที่มีปัญหาระดับโคเลสเตอรอลสูงมากกว่า 210 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ควรเสริมด้วยน้ำมันสกัดจากถั่วเหลืองหรือเลซิตินควบคู่กับกระเทียม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือดให้ดียิ่งขึ้น แต่กรณีผู้ที่มีปัญหาระดับโคเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์สูงทั้งคู่ควรเสริมด้วยน้ำมันปลา โอเมก้า-3 ควบคู่กับกระเทียม จะช่วยลดทั้งโคเลสเตอรอล และไตรกลีเซอรไรด์ได้ รวมทั้งน้ำมันปลายังมีผลในเพิ่มระดับโคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL-cholesterol) ที่มีหน้าที่ในการนำโคเลสเตอรอลที่สะสมและอุดตันในหลอดเลือดกลับไปทำลายหรือเผาผลาญที่ตับ ดังนั้นหากสามารถเพิ่มระดับโคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL-cholesterol) เพียง 1 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร จะสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจได้ถึง 3-4% ส่วนการทดลองทางคลินิกพบว่าเมื่อให้น้ำมันหอมระเหยจากกระเทียมกับคนปรกติและคนไข้โรคหัวใจที่มีระดับโคเลสเตอรอลสูง ในขนาด 0.25 มก./น้ำหนักตัว 1 กก. เป็นเวลา 10 เดือนพบว่าระดับโคเลสเตอรอลในเลือดลดลง นอกจากนี้เมื่อให้กระเทียมสดกับคนไข้ที่มีไขมันในเลือดสูงในขนาดครั้งละ 25 กรัม วันละ 3 เวลา เป็นเวลา 25 วัน พบว่า 1/3 ของคนไข้มีระดับโคเลสเตอรอลในเลือดลดลงอย่างเห็นได้ชัด
- ลดสภาวะความดันโลหิตสูง จากกรวิจัยทั่วโลกพบว่ากระเทียมสามารถลดความดันโลหิตค่าบน (Systolic Blood Pressure) ได้ 7.7 มิลลิเมตรปรอท และลดความดันโลหิตค่าล่าง (Diastolic Blood Pressure) ได้ 5 มิลลิเมตรปรอท ลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือดได้ถึง 58% โดยสารสำคัญในกระเทียมที่ชื่อ เมทิลแอลิล ไตรซัลไฟด์ จะไปลดการจับตัวของเกล็ดเลือด ป้องกันการเกาะตัวของเกล็ดเลือดและเพิ่มการสลายไฟบริน ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดีขึ้น และจากการศึกษาวิจัยทั้งในคนและสัตว์ทดลอง พบว่าน้ำมันกระเทียมสามารถลดความดันโลหิตได้ โดยสารที่สำคัญที่ออกฤทธิ์คือ อัลลิซิน (Allicin)และ adenosine โดยที่อัลลิซิน (Allicin) ซึ่งเป็นสารประกอบซัลไฟด์ ช่วยในการขยายหลอดเลือด และป้องกันการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดีขึ้น ส่วน adenosine จะไปออกฤทธิ์ให้กล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือดคลายตัว
- เสริมภูมิต้านทาน ลดภูมิแพ้ สารสำคัญในน้ำมันกระเทียม คือ อัลลิซิน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกายโดยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดขาวเช่น Macrophages และ T-lymphocyte เพิ่มขึ้น เมื่อร่างกายเรามีเม็ดเลือดขาวเพิ่มมากขึ้นจะส่งผลในการช่วยบรรเทาและลดอาการภูมิแพ้ นอกจากนี้กระเทียมมีฤทธิ์ที่เปรียบเสมือนยาปฏิชีวนะ ที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส และเชื้อรา จากการทดลองพบว่าผลิตภัณฑ์กระเทียมในรูปแบบต่างๆ ล้วนแล้วแต่มีผลในการยับยั้งการเจริญของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคหลายชนิดรวมทั้งเชื้อ Klebsiella pneumoniae ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคปอดบวม และเชื้อ Mycobacterium tuberculosis อันเป็นสาเหตุของวัณโรค โดยเฉพาะเชื้อวัณโรคได้มีการทดลองให้น้ำมันกระเทียมในผู้ป่วยวัณโรคปรากฏว่าได้ผลดี และพบว่าสารที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียเหล่านี้เป็นสารจำพวก sulfide ดังนั้นกระเทียมจึงมีส่วนในการช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดโอกาสการแพ้ต่างๆ และลดอาการเรื้อรังทางระบบทางเดินหายใจ เช่น หวัด หอบหืด ไซนัส หูอักเสบ เป็นต้น และกรณีที่เสริมด้วยการรับประทานวิตามินเช่น วิตามินซีควบคู่กับน้ำมันกระเทียมพบว่าจะช่วยบรรเทาและลดความถี่ของการเกิดโรคภูมิแพ้ เนื่องจากทั้งวิตามินซีและน้ำมันกระเทียมจะเสริมฤทธิ์กันในการกระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ดเลือดขาวของร่างกายเพิ่มมากขึ้นส่งเสริมให้ภูมิต้านทานของร่างกายดีขึ้นอย่างชัดเจน
- คุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระและป้องกันโรคมะเร็ง สารประกอบในกระเทียมสามารถยับยั้งการเกิดสารก่อมะเร็งที่ชื่อไนโตรซามีนในร่างกาย ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็งได้ จากการวิจัยพบว่าสารตัวหนึ่งในกระเทียมชื่อ S-allylmercaptocysteine ช่วยลดการเกิดมะเร็งในต่อมลูกหมากได้ถึง 50% และสาร allyl sulfides ช่วยลดการผลิตเอนไซม์ phase 1 ซึ่งเป็นอันตรายต่อเซลล์และนำไปสู่การเกิดเซลล์มะเร็งได้ กระเทียมจึงสามารถป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็งได้ดีเยี่ยม นอกจากนั้นซีลีเนียม (Selenium) ที่พบในกระเทียมมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและลดอันตรายจากการเกิดอนุมูลอิสระ ที่เป็นสาเหตุให้เกิดเซลล์มะเร็งที่อวัยวะต่างๆ
- โรคเบาหวาน น้ำมันกระเทียมให้สารกลูโคไคนิน (Glucokinin) กระตุ้นตับอ่อนให้สร้างอินซูลินเพิ่มขึ้น ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวาน มีการทดลองให้สารสกัดกระเทียมแก่กระตายที่ทำให้เป็นเบาหวานด้วย alloxan โดยให้ในขนาด 0.25 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม พบว่าสามารถลดน้ำตาลในเลือดได้ร้อยละ 70 เมื่อเปรียบเทียบกับยา tolbutamide ส่วนสาร allicin มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดได้พอๆ กับ tolbutamide
- ลดอาการผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร เช่น อาหารไม่ย่อย เบื่ออาหาร แน่นท้อง ท้องเฟ้อ และท้องอืด ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการปวดท้อง เสียดท้องหรือท้องอืด โดยกระเทียมสามารถออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของอาการแน่นจุกเสียด ท้องเสีย และกระเทียมยังมีฤทธิ์ขับน้ำดีทำให้การย่อยอาหารดีขึ้น
- ช่วยลดอาการอักเสบและรักษาแผลในกระเพาะอาหาร โดยกระเทียมไปออกฤทธิ์ต้านสารสังเคราะห์ Prostaglandin และกระเทียมยังมีฤทธิ์เพิ่มการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กด้วย
จากประโยชน์มากมายที่มีอยู่ในกระเทียม ถ้าหากสามารถบริโภคกระเทียมให้ได้ปริมาณสารสำคัญที่มากพอในแต่ละวัน กระเทียมจะสามารถช่วยเป็นเกราะป้องกันร่างกายให้ห่างจากโรคร้ายได้เป็นอย่างดี แต่สารสำคัญของกระเทียมโดยเฉพาะอัลลิซินยังมีคุณสมบัติไม่คงตัว สลายตัวได้ง่าย เพียงสัมผัสกับความร้อนแค่ 6 วินาที สารสำคัญอัลลิซินที่อยู่ในกระเทียมจะหมดไปทันที ดังนั้นน้ำมันกระเทียมสกัดในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถรักษาคุณค่าของสารสำคัญที่มีอยู่ในกระเทียมได้อย่างครบถ้วน อีกทั้งยังสะดวกในการรับประทาน ไม่ต้องพบกับปัญหาเรื่องรสชาดและกลิ่นที่จะตามมาอีกด้วย
เอกสารอ้างอิง
- ฝ่ายวิชาการ สถาบันการแพทย์แผนไทย. อย่ามองข้ามสมุนไพรใกล้มือล้วนสารพัดประโยชน์. [online] available from http://ittm.dtam.moph.go.th/data_all/herbs/herbal13.htm
- AdAM j Adler and Bruce J Holub. Effect of garlic and fish oil supplementation on serum lipid and lipoprotein concentrations in hypercholesterolemic men. American Journal of Clinical Nutrition Vol. 65 (2) Page 445-50, Feb 1997
- Dion M., Agler M. and Milner A. S-allyl cysteine inhibits nitrosomorpholine formation and bioactivation. Nutr Cancer, 1997; 28(1): 1-6.
- Kemper K. Garlic (Allium sativum). [online] available from http://www.mcp.edu/herbal/default.htm
- Lee, J. et al. (2005). "Free amino acid and cysteine sulfoxide composition of 11 garlic (Allium sativum L.) cultivars by gas chromatography with flame ionization and mass selective detection". [cited 5 June 2009]. Available from: http://hdl.handle.net/10113/877
- Tattelman E. Health effect of garlic. American Family Physician. 2005, Vol. 72; No. 1. 103-6.
- V. S. Kamanna and N. Chandrasekhara Effect of garlic ( Allium sativum linn) on serum lipoproteins and lipoprotein cholesterol levels in albino rats rendered hypercholesteremic by feeding cholesterol , Journal of Lipids, Volume 17, July 1982, Pages 483-488.
คุณประโยชน์จากน้ำมันสกัดเย็นรวมรวม 4 ชนิด
- ช่วยป้องกันโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดตีบตัน / ช่วยระบบการไหลเวียนเลือด
ในน้ำมันสกัดรวมมี Omega 3, Omega 9, Gramma-Oryzanol, Vitamin E, Co-Q 10, สารประกอบในน้ำมันกระเทียม, กรดไขมันสายกลาง ซึ่งสารเหล่านี้
- ช่วยเพิ่มระดับของ HDL (โดยเฉพาะ LCAT เพิ่มขึ้น100%
- ช่วยลดระดับของ LDL(ไขมันชนิดไม่ดี)
- ช่วยลดระดับของ ไตรกลีเซอไรด์
- ช่วยละลายลิ่มเลือด/ ป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด
ผลต่าง ๆ ที่ได้ช่วยทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานเป็นปกติ หลอดเลือดสะอาด หัวใจ,สมอง,ตับ,ไต ฯลฯ ทำงานดีขึ้น ลดการเกิดโรคหัวใจ, หัวใจวาย, หัวใจขาดเลือด, อัมพฤกษ์, อัมพาต เป็นต้น
- ช่วยป้องกันโรคความดันเลือดสูง
จาก สารอาหารที่มีอยู่มากมาย ช่วยทำให้ระบบหลอดเลือดสะอาด หัวใจทำงานดีขึ้น การปั้มเลือดไปเลี้ยงอวัยวะและเซลล์ต่าง ๆ ได้ทั่วถึง ช่วยทำให้การทำงานของความดันเลือดกลับสู่ความเป็นปกติ
- ช่วยป้องกันโรคเบาหวานและบรรเทาปัญหาแทรกซ้อนจากเบาหวาน
ในน้ำมันสกัดรวม มีกรดไขมันสายกลาง,สารอัลลิซิน,ช่วยลดน้ำตาลในเลือดลดลง และยังพบว่าในน้ำมันรำข้าว มีโครเมียม ช่วยทำให้ฮอร์โมนอินซูลิน มีประสิทธิภาพสูงขึ้น มีผลลดน้ำตาลในเลือดได้ ส่วนปัญหาแทรกซ้อนจากเบาหวาน เช่น ปลายประสาทอักเสบชา ไม่ค่อยมีความรู้สึก กรดอัลลฟ่าไลโปอิค (น้ำมันมะพร้าว + กระเทียม) จะช่วยทำให้ปัญหาดังกล่าวทุเลาลงได้ดีมาก
- ช่วยป้องกันโรคระบบสมอง / ประสาท อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน ฯลฯ
ในน้ำมันสกัดรวมมีกรดไขมันสายกลาง ซึ่งเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานที่ต่ำและเปลี่ยนตัวเองคีโตน คีโตนเป็นสารอาหารให้แก่เซลล์สมอง หลังจากเซลล์ได้รับพลังงานจะฟื้นตัวและสามารถช่วยให้ความจำดีขึ้น ยังมี Omega 3, Vitamin E, โอลีซานอล รักษาความสมดุลของระบบประสาท บำรุงสมอง ป้องกันหลอดเลือดสมองตีบตัน / แตก ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคอัมพฤกษ์,อัมพาตได้และช่วยให้เซลล์หรืออวัยวะบางส่วน สามารถซ่อมแซมตัวเองมากพอ สามารถกลับมาทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ เช่น เดินหรือเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น
- ช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้หรือแพ้ภูมิตัวเอง
ในน้ำมันสกัดรวมมีสารอาหารดังที่กล่าวข้างต้นแล้ว ยังมีสารตั้งต้นของกลูต้าไธโอน คือ ซิสเตอีน กลูต้าไธโอนกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว แมคโคเฟจ, เฮลเปอร์ทีเซลล์, เรกูลาทอรี่ทีเซลล์ ให้กลับมาทำงานดีขึ้นเป็นปกติมากขึ้น Omega 3 และกรดไขมันสายกลาง ไปช่วยลดการอักเสบของเซลล์ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้หรือแพ้ภูมิตัวเอง เช่น โรค SLE, รูมาตอยด์, แพ้อากาศ, สะเก็ดเงิน ผื่นแพ้ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี อาการต่าง ๆ จะค่อย ๆ ทุเลาลงเรื่อย
- ช่วยป้องกันโรคที่เกี่ยวกับสายตา
อวัยวะส่วนนี้เป็นแหล่งที่ต้องการสารต้านอนุมูลมากที่สุด สารอาหารต่าง ๆ ที่อยู่ในน้ำมันสกัดรวมจะช่วยดูแลและป้องกันได้ เช่น กรดอัลลฟ่าไลโปอิค (น้ำมันมะพร้าว + กระเทียม) ช่วยป้องกันโรคต้อกระจกได้ Vitamin A- เบต้าแคโรทีน ช่วยรักษาโรคตาแห้งได้และโรคที่เกี่ยวกับสายตาได้
- ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง
ในน้ำมันสกัดเย็น มีสารอาหารต่างๆ มากมาย (ดังกล่าวมาข้างต้น) ล้วนมีสารต้านทานอนุมูลอิสระ และยังมีสารต้านทานระดับ Super Anti-Oxidant หรือ Universal Anti-Oxidant สารต้านทรงอนุภาพ ซึ่งมีบทวิจัยมากมายอย่างอัลฟ่าไลโปอิคที่สามารถปิดสวิทซ์มะเร็งได้ หยุดยั้งการเกิดอนุมูลอิสระสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง
- ช่วยทำให้สมรรถภาพทางเพศดีขึ้น ดังที่ทราบกระเทียมกระตุ้นความตื่นตัวทางเพศได้เป็นอย่างดี
ในน้ำมันสกัดรวมสามารถรักษาสารอาหารต่างๆ ของกระเทียมได้ครบถ้วน และยังได้สารใหม่ที่เรียกว่า อะโจอิน (AJOIN) ที่ได้มาจากอัลลิซิน ซึ่งสารอะโจอินให้ประสิทธิภาพได้ดีกว่าหลายเท่า จึงมีผลในการเพิ่มสมรรถนะทางเพศอย่างชัดเจน
- ช่วยป้องกันโรคตับแข็ง ไวรัสลงตับ
ในน้ำมันสกัดรวมมีกรดไขมันสายปานกลาง เป็นน้ำมันชนิดเดียวที่ตรงไปยังตับแล้วเผาผลาญเป็นพลังงาน ช่วยฟื้นฟูเซลล์ตับให้กลับคืนมาทำงานได้ดีขึ้น และกรดไขมันสายกลางมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา จึงสามารถกำจัดไวรัสบางชนิดได้และค่าของตับที่สูงเกินมาตรฐานสาเหตุจากยา และสารเคมีที่ตกค้างในตับ กรดไขมันสารกลางและกระเทียมช่วยกำจัดสิ่งตกค้างออกจากตับได้ ทำให้ค่าตับกลับสู่ค่าปกติได้
- ช่วยระบบกระดูกและข้อ
ในน้ำมันสกัดรวมประกอบไปด้วยกรดไขมันที่สำคัญต่อร่างกาย ต่อกระดูกโดยตรงช่วยเพิ่มการหล่อลื่นภายในข้อให้ดีขึ้น ลดการอักเสบของข้อ ทำให้การเคลื่อนไหวของข้อต่าง ๆ สะดวกขึ้น
- ช่วยลดความอ้วนและระบบเผาผลาญทำงานได้ดี
เป็นที่ทราบกันดีว่าน้ำมันถั่วเหลือง ทานตะวัน ฯลฯ ที่เราบริโภคกันอยู่มีฤทธิ์ไปขัดขวางการทำงานของต่อมไทรอยด์ ทำให้ร่างกายอ้วนขึ้น เกี่ยวเนื่องกับการเผาผลาญจึงทำให้ร่างกายมีการเผาผลาญอาหารได้ต่ำ แต่กรดไขมันสายกลางช่วยกระตุ้นไทรอยด์ให้ทำงานดีขึ้น และกรดไขมันสายกลางเปลี่ยนพลังงานที่ตับ ให้ทำงานคล้ายกับคาร์โบไฮเดรต แต่ไม่สะสมเป็นไขมันเหมือนคาร์โบไฮเดรต และกรดไขมันสายกลางยังช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกิน และยังกระตุ้นฮอร์โมนเลปตินไปยับยั้งการทานอาหาร โดยสั่งสมองว่าอิ่มแล้วให้หยุดการทานหรือทานน้อยลง จึงทำให้ร่างกายสมสัดส่วนดีขึ้น อ้วนน้อยลง
- ช่วยระบบการขับถ่าย / ขจัดล้างสารพิษออกจากร่างกาย
ในน้ำมันสกัดรวมลดอาการภาวะท้องผูก ช่วยลดภาวะเสี่ยงต่อโรคริดสีดวงทวารและมะเร็งลำไส้ใหญ่ กรดไขมันสายกลางช่วยทำให้หน่วยกรองของไตกลับมาทำงานได้ดีขึ้น การขับปัสสาวะเป็นปกติขึ้น กรดอัลลฟ่าไลโปอิคช่วยกำจัดสารพิษ โลหะหนัก เช่น ปรอท ตะกั่ว ออกจากร่างกายได้ดี
- ช่วยป้องกันต่อมลูกหมากโตสาเหตุมะเร็งต่อมลูกหมาก
มีงานวิจัยว่าฮอร์โมนเพศชายเป็นสาเหตุสำคัญ โดยเฉพาะ DHT ซึ่งเป็นสารที่เกิดจากการเปลี่ยนฮอร์โมนเทสทอสเตอโรนโดยอาศัยเอนไซม์ 5-ALPHA-REDUCTASE(DHT)ออกฤทธิ์ ทำให้เกิดภาวะต่อมลูกหมากโต/อักเสบ/มะเร็ง และสาเหตุศีรษะล้าน เริ่มมีอาการตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไป และจะมีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆตามอายุที่มากขึ้น สารอาหารสำคัญที่อยู่ในน้ำมันรวมและกรดไขมันสายกลางจะไปช่วยลดภาวะของ DHT ให้ลดลงได้ทำให้อาการต่างๆที่เป็นอยู่ดีขึ้นโดยลำดับ
- ช่วยปรับสภาพสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย
ในน้ำมันสกัดรวมมี Omega 3 ที่ไปช่วยไม่ให้ Omega 6 มีมากเกินไปในร่างกาย สาเหตุของการอักเสบต่างๆ รวมทั้งภาวะฮอร์โมนทำงานผิดปกติ วิตามิน E, Q10 ช่วยลดอาการแปรปรวนต่าง ๆ ของคนวัยทองหรือหมดประจำเดือน ทั้งหมดที่มีอยู่ในน้ำมันสกัดรวมจะช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกายทำงานได้ที่ขึ้น ลดอาการ