วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2557

น้ำมันกระเที่ยมสกัดเย็น

น้ำมันกระเทียมสกัดเย็น คุณประโยชน์มากล้นที่คุณต้องถามแล้ววันนี้



ประโยชน์ของน้ำมันกระเทียม


  • ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันเพราะปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคหัวใจส่วนใหญ่ เนื่องมาจากการสะสมเกาะตัวของไขมันที่ผนังหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งกระเทียมมีส่วนช่วยลดปริมาณโคเลสเตอรอลในกระแสเลือด จากการวิจัยพบว่าสารประกอบซัลเฟอร์ในกระเทียมโดยเฉพาะอัลลิซิน สามารถลดปริมาณโคเลสเตอรอลรวม และ โคเลสเตอรอลชนิดร้าย (LDL-cholesterol) ได้ดีเพราะอัลลิซินสามารถยับยั้งการทำงานของ HMG-COA reductase ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ใช้ในการสังเคราะห์โคเลสเตอรอล สำหรับกรณีผู้ที่มีปัญหาระดับโคเลสเตอรอลสูงมากกว่า 210 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ควรเสริมด้วยน้ำมันสกัดจากถั่วเหลืองหรือเลซิตินควบคู่กับกระเทียม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือดให้ดียิ่งขึ้น แต่กรณีผู้ที่มีปัญหาระดับโคเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์สูงทั้งคู่ควรเสริมด้วยน้ำมันปลา โอเมก้า-3 ควบคู่กับกระเทียม จะช่วยลดทั้งโคเลสเตอรอล และไตรกลีเซอรไรด์ได้ รวมทั้งน้ำมันปลายังมีผลในเพิ่มระดับโคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL-cholesterol) ที่มีหน้าที่ในการนำโคเลสเตอรอลที่สะสมและอุดตันในหลอดเลือดกลับไปทำลายหรือเผาผลาญที่ตับ ดังนั้นหากสามารถเพิ่มระดับโคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL-cholesterol) เพียง 1 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร จะสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจได้ถึง 3-4% ส่วนการทดลองทางคลินิกพบว่าเมื่อให้น้ำมันหอมระเหยจากกระเทียมกับคนปรกติและคนไข้โรคหัวใจที่มีระดับโคเลสเตอรอลสูง ในขนาด 0.25 มก./น้ำหนักตัว 1 กก. เป็นเวลา 10 เดือนพบว่าระดับโคเลสเตอรอลในเลือดลดลง นอกจากนี้เมื่อให้กระเทียมสดกับคนไข้ที่มีไขมันในเลือดสูงในขนาดครั้งละ 25 กรัม วันละ 3 เวลา เป็นเวลา 25 วัน พบว่า 1/3 ของคนไข้มีระดับโคเลสเตอรอลในเลือดลดลงอย่างเห็นได้ชัด
  • ลดสภาวะความดันโลหิตสูง จากกรวิจัยทั่วโลกพบว่ากระเทียมสามารถลดความดันโลหิตค่าบน (Systolic Blood Pressure) ได้ 7.7 มิลลิเมตรปรอท และลดความดันโลหิตค่าล่าง (Diastolic Blood Pressure) ได้ 5 มิลลิเมตรปรอท ลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือดได้ถึง 58% โดยสารสำคัญในกระเทียมที่ชื่อ เมทิลแอลิล ไตรซัลไฟด์ จะไปลดการจับตัวของเกล็ดเลือด ป้องกันการเกาะตัวของเกล็ดเลือดและเพิ่มการสลายไฟบริน ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดีขึ้น และจากการศึกษาวิจัยทั้งในคนและสัตว์ทดลอง พบว่าน้ำมันกระเทียมสามารถลดความดันโลหิตได้ โดยสารที่สำคัญที่ออกฤทธิ์คือ อัลลิซิน (Allicin)และ adenosine โดยที่อัลลิซิน (Allicin) ซึ่งเป็นสารประกอบซัลไฟด์ ช่วยในการขยายหลอดเลือด และป้องกันการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดีขึ้น ส่วน adenosine จะไปออกฤทธิ์ให้กล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือดคลายตัว
  • เสริมภูมิต้านทาน ลดภูมิแพ้ สารสำคัญในน้ำมันกระเทียม คือ อัลลิซิน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกายโดยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดขาวเช่น Macrophages และ T-lymphocyte เพิ่มขึ้น เมื่อร่างกายเรามีเม็ดเลือดขาวเพิ่มมากขึ้นจะส่งผลในการช่วยบรรเทาและลดอาการภูมิแพ้ นอกจากนี้กระเทียมมีฤทธิ์ที่เปรียบเสมือนยาปฏิชีวนะ ที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส และเชื้อรา จากการทดลองพบว่าผลิตภัณฑ์กระเทียมในรูปแบบต่างๆ ล้วนแล้วแต่มีผลในการยับยั้งการเจริญของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคหลายชนิดรวมทั้งเชื้อ Klebsiella pneumoniae ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคปอดบวม และเชื้อ Mycobacterium tuberculosis อันเป็นสาเหตุของวัณโรค โดยเฉพาะเชื้อวัณโรคได้มีการทดลองให้น้ำมันกระเทียมในผู้ป่วยวัณโรคปรากฏว่าได้ผลดี และพบว่าสารที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียเหล่านี้เป็นสารจำพวก sulfide ดังนั้นกระเทียมจึงมีส่วนในการช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดโอกาสการแพ้ต่างๆ และลดอาการเรื้อรังทางระบบทางเดินหายใจ เช่น หวัด หอบหืด ไซนัส หูอักเสบ เป็นต้น และกรณีที่เสริมด้วยการรับประทานวิตามินเช่น วิตามินซีควบคู่กับน้ำมันกระเทียมพบว่าจะช่วยบรรเทาและลดความถี่ของการเกิดโรคภูมิแพ้ เนื่องจากทั้งวิตามินซีและน้ำมันกระเทียมจะเสริมฤทธิ์กันในการกระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ดเลือดขาวของร่างกายเพิ่มมากขึ้นส่งเสริมให้ภูมิต้านทานของร่างกายดีขึ้นอย่างชัดเจน
  • คุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระและป้องกันโรคมะเร็ง สารประกอบในกระเทียมสามารถยับยั้งการเกิดสารก่อมะเร็งที่ชื่อไนโตรซามีนในร่างกาย ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็งได้ จากการวิจัยพบว่าสารตัวหนึ่งในกระเทียมชื่อ S-allylmercaptocysteine ช่วยลดการเกิดมะเร็งในต่อมลูกหมากได้ถึง 50% และสาร allyl sulfides ช่วยลดการผลิตเอนไซม์ phase 1 ซึ่งเป็นอันตรายต่อเซลล์และนำไปสู่การเกิดเซลล์มะเร็งได้ กระเทียมจึงสามารถป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็งได้ดีเยี่ยม นอกจากนั้นซีลีเนียม (Selenium) ที่พบในกระเทียมมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและลดอันตรายจากการเกิดอนุมูลอิสระ ที่เป็นสาเหตุให้เกิดเซลล์มะเร็งที่อวัยวะต่างๆ
  • โรคเบาหวาน น้ำมันกระเทียมให้สารกลูโคไคนิน (Glucokinin) กระตุ้นตับอ่อนให้สร้างอินซูลินเพิ่มขึ้น ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวาน มีการทดลองให้สารสกัดกระเทียมแก่กระตายที่ทำให้เป็นเบาหวานด้วย alloxan โดยให้ในขนาด 0.25 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม พบว่าสามารถลดน้ำตาลในเลือดได้ร้อยละ 70 เมื่อเปรียบเทียบกับยา tolbutamide ส่วนสาร allicin มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดได้พอๆ กับ tolbutamide
  • ลดอาการผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร เช่น อาหารไม่ย่อย เบื่ออาหาร แน่นท้อง ท้องเฟ้อ และท้องอืด ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการปวดท้อง เสียดท้องหรือท้องอืด โดยกระเทียมสามารถออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของอาการแน่นจุกเสียด ท้องเสีย และกระเทียมยังมีฤทธิ์ขับน้ำดีทำให้การย่อยอาหารดีขึ้น
  • ช่วยลดอาการอักเสบและรักษาแผลในกระเพาะอาหาร โดยกระเทียมไปออกฤทธิ์ต้านสารสังเคราะห์ Prostaglandin และกระเทียมยังมีฤทธิ์เพิ่มการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กด้วย จากประโยชน์มากมายที่มีอยู่ในกระเทียม ถ้าหากสามารถบริโภคกระเทียมให้ได้ปริมาณสารสำคัญที่มากพอในแต่ละวัน กระเทียมจะสามารถช่วยเป็นเกราะป้องกันร่างกายให้ห่างจากโรคร้ายได้เป็นอย่างดี แต่สารสำคัญของกระเทียมโดยเฉพาะอัลลิซินยังมีคุณสมบัติไม่คงตัว สลายตัวได้ง่าย เพียงสัมผัสกับความร้อนแค่ 6 วินาที สารสำคัญอัลลิซินที่อยู่ในกระเทียมจะหมดไปทันที ดังนั้นน้ำมันกระเทียมสกัดในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถรักษาคุณค่าของสารสำคัญที่มีอยู่ในกระเทียมได้อย่างครบถ้วน อีกทั้งยังสะดวกในการรับประทาน ไม่ต้องพบกับปัญหาเรื่องรสชาดและกลิ่นที่จะตามมาอีกด้วย

 เอกสารอ้างอิง



  1. ฝ่ายวิชาการ สถาบันการแพทย์แผนไทย. อย่ามองข้ามสมุนไพรใกล้มือล้วนสารพัดประโยชน์. [online] available from http://ittm.dtam.moph.go.th/data_all/herbs/herbal13.htm
  2. AdAM j Adler and Bruce J Holub. Effect of garlic and fish oil supplementation on serum lipid and lipoprotein concentrations in hypercholesterolemic men. American Journal of Clinical Nutrition Vol. 65 (2) Page 445-50, Feb 1997
  3. Dion M., Agler M. and Milner A. S-allyl cysteine inhibits nitrosomorpholine formation and bioactivation. Nutr Cancer, 1997; 28(1): 1-6.
  4.  Kemper K. Garlic (Allium sativum). [online] available from http://www.mcp.edu/herbal/default.htm
  5. Lee, J. et al. (2005). "Free amino acid and cysteine sulfoxide composition of 11 garlic (Allium sativum L.) cultivars by gas chromatography with flame ionization and mass selective detection". [cited 5 June 2009]. Available from: http://hdl.handle.net/10113/877
  6. Tattelman E. Health effect of garlic. American Family Physician. 2005, Vol. 72; No. 1. 103-6. 
  7. V. S. Kamanna and N. Chandrasekhara Effect of garlic ( Allium sativum linn) on serum lipoproteins and lipoprotein cholesterol levels in albino rats rendered hypercholesteremic by feeding cholesterol , Journal of Lipids, Volume 17, July 1982, Pages 483-488.

คุณประโยชน์จากน้ำมันสกัดเย็นรวมรวม 4 ชนิด


  1. ช่วยป้องกันโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดตีบตัน / ช่วยระบบการไหลเวียนเลือด ในน้ำมันสกัดรวมมี Omega 3, Omega 9, Gramma-Oryzanol, Vitamin E, Co-Q 10, สารประกอบในน้ำมันกระเทียม, กรดไขมันสายกลาง ซึ่งสารเหล่านี้ - ช่วยเพิ่มระดับของ HDL (โดยเฉพาะ LCAT เพิ่มขึ้น100% - ช่วยลดระดับของ LDL(ไขมันชนิดไม่ดี) - ช่วยลดระดับของ ไตรกลีเซอไรด์ - ช่วยละลายลิ่มเลือด/ ป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด ผลต่าง ๆ ที่ได้ช่วยทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานเป็นปกติ หลอดเลือดสะอาด หัวใจ,สมอง,ตับ,ไต ฯลฯ ทำงานดีขึ้น ลดการเกิดโรคหัวใจ, หัวใจวาย, หัวใจขาดเลือด, อัมพฤกษ์, อัมพาต เป็นต้น
  2. ช่วยป้องกันโรคความดันเลือดสูง จาก สารอาหารที่มีอยู่มากมาย ช่วยทำให้ระบบหลอดเลือดสะอาด หัวใจทำงานดีขึ้น การปั้มเลือดไปเลี้ยงอวัยวะและเซลล์ต่าง ๆ ได้ทั่วถึง ช่วยทำให้การทำงานของความดันเลือดกลับสู่ความเป็นปกติ
  3. ช่วยป้องกันโรคเบาหวานและบรรเทาปัญหาแทรกซ้อนจากเบาหวาน ในน้ำมันสกัดรวม มีกรดไขมันสายกลาง,สารอัลลิซิน,ช่วยลดน้ำตาลในเลือดลดลง และยังพบว่าในน้ำมันรำข้าว มีโครเมียม ช่วยทำให้ฮอร์โมนอินซูลิน มีประสิทธิภาพสูงขึ้น มีผลลดน้ำตาลในเลือดได้ ส่วนปัญหาแทรกซ้อนจากเบาหวาน เช่น ปลายประสาทอักเสบชา ไม่ค่อยมีความรู้สึก กรดอัลลฟ่าไลโปอิค (น้ำมันมะพร้าว + กระเทียม) จะช่วยทำให้ปัญหาดังกล่าวทุเลาลงได้ดีมาก
  4. ช่วยป้องกันโรคระบบสมอง / ประสาท อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน ฯลฯ ในน้ำมันสกัดรวมมีกรดไขมันสายกลาง ซึ่งเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานที่ต่ำและเปลี่ยนตัวเองคีโตน คีโตนเป็นสารอาหารให้แก่เซลล์สมอง หลังจากเซลล์ได้รับพลังงานจะฟื้นตัวและสามารถช่วยให้ความจำดีขึ้น ยังมี Omega 3, Vitamin E, โอลีซานอล รักษาความสมดุลของระบบประสาท บำรุงสมอง ป้องกันหลอดเลือดสมองตีบตัน / แตก ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคอัมพฤกษ์,อัมพาตได้และช่วยให้เซลล์หรืออวัยวะบางส่วน สามารถซ่อมแซมตัวเองมากพอ สามารถกลับมาทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ เช่น เดินหรือเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น
  5. ช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้หรือแพ้ภูมิตัวเอง ในน้ำมันสกัดรวมมีสารอาหารดังที่กล่าวข้างต้นแล้ว ยังมีสารตั้งต้นของกลูต้าไธโอน คือ ซิสเตอีน กลูต้าไธโอนกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว แมคโคเฟจ, เฮลเปอร์ทีเซลล์, เรกูลาทอรี่ทีเซลล์ ให้กลับมาทำงานดีขึ้นเป็นปกติมากขึ้น Omega 3 และกรดไขมันสายกลาง ไปช่วยลดการอักเสบของเซลล์ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้หรือแพ้ภูมิตัวเอง เช่น โรค SLE, รูมาตอยด์, แพ้อากาศ, สะเก็ดเงิน ผื่นแพ้ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี อาการต่าง ๆ จะค่อย ๆ ทุเลาลงเรื่อย
  6. ช่วยป้องกันโรคที่เกี่ยวกับสายตา อวัยวะส่วนนี้เป็นแหล่งที่ต้องการสารต้านอนุมูลมากที่สุด สารอาหารต่าง ๆ ที่อยู่ในน้ำมันสกัดรวมจะช่วยดูแลและป้องกันได้ เช่น กรดอัลลฟ่าไลโปอิค (น้ำมันมะพร้าว + กระเทียม) ช่วยป้องกันโรคต้อกระจกได้ Vitamin A- เบต้าแคโรทีน ช่วยรักษาโรคตาแห้งได้และโรคที่เกี่ยวกับสายตาได้
  7. ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ในน้ำมันสกัดเย็น มีสารอาหารต่างๆ มากมาย (ดังกล่าวมาข้างต้น) ล้วนมีสารต้านทานอนุมูลอิสระ และยังมีสารต้านทานระดับ Super Anti-Oxidant หรือ Universal Anti-Oxidant สารต้านทรงอนุภาพ ซึ่งมีบทวิจัยมากมายอย่างอัลฟ่าไลโปอิคที่สามารถปิดสวิทซ์มะเร็งได้ หยุดยั้งการเกิดอนุมูลอิสระสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง
  8. ช่วยทำให้สมรรถภาพทางเพศดีขึ้น ดังที่ทราบกระเทียมกระตุ้นความตื่นตัวทางเพศได้เป็นอย่างดี ในน้ำมันสกัดรวมสามารถรักษาสารอาหารต่างๆ ของกระเทียมได้ครบถ้วน และยังได้สารใหม่ที่เรียกว่า อะโจอิน (AJOIN) ที่ได้มาจากอัลลิซิน ซึ่งสารอะโจอินให้ประสิทธิภาพได้ดีกว่าหลายเท่า จึงมีผลในการเพิ่มสมรรถนะทางเพศอย่างชัดเจน
  9. ช่วยป้องกันโรคตับแข็ง ไวรัสลงตับ ในน้ำมันสกัดรวมมีกรดไขมันสายปานกลาง เป็นน้ำมันชนิดเดียวที่ตรงไปยังตับแล้วเผาผลาญเป็นพลังงาน ช่วยฟื้นฟูเซลล์ตับให้กลับคืนมาทำงานได้ดีขึ้น และกรดไขมันสายกลางมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา จึงสามารถกำจัดไวรัสบางชนิดได้และค่าของตับที่สูงเกินมาตรฐานสาเหตุจากยา และสารเคมีที่ตกค้างในตับ กรดไขมันสารกลางและกระเทียมช่วยกำจัดสิ่งตกค้างออกจากตับได้ ทำให้ค่าตับกลับสู่ค่าปกติได้
  10. ช่วยระบบกระดูกและข้อ ในน้ำมันสกัดรวมประกอบไปด้วยกรดไขมันที่สำคัญต่อร่างกาย ต่อกระดูกโดยตรงช่วยเพิ่มการหล่อลื่นภายในข้อให้ดีขึ้น ลดการอักเสบของข้อ ทำให้การเคลื่อนไหวของข้อต่าง ๆ สะดวกขึ้น
  11. ช่วยลดความอ้วนและระบบเผาผลาญทำงานได้ดี เป็นที่ทราบกันดีว่าน้ำมันถั่วเหลือง ทานตะวัน ฯลฯ ที่เราบริโภคกันอยู่มีฤทธิ์ไปขัดขวางการทำงานของต่อมไทรอยด์ ทำให้ร่างกายอ้วนขึ้น เกี่ยวเนื่องกับการเผาผลาญจึงทำให้ร่างกายมีการเผาผลาญอาหารได้ต่ำ แต่กรดไขมันสายกลางช่วยกระตุ้นไทรอยด์ให้ทำงานดีขึ้น และกรดไขมันสายกลางเปลี่ยนพลังงานที่ตับ ให้ทำงานคล้ายกับคาร์โบไฮเดรต แต่ไม่สะสมเป็นไขมันเหมือนคาร์โบไฮเดรต และกรดไขมันสายกลางยังช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกิน และยังกระตุ้นฮอร์โมนเลปตินไปยับยั้งการทานอาหาร โดยสั่งสมองว่าอิ่มแล้วให้หยุดการทานหรือทานน้อยลง จึงทำให้ร่างกายสมสัดส่วนดีขึ้น อ้วนน้อยลง
  12. ช่วยระบบการขับถ่าย / ขจัดล้างสารพิษออกจากร่างกาย ในน้ำมันสกัดรวมลดอาการภาวะท้องผูก ช่วยลดภาวะเสี่ยงต่อโรคริดสีดวงทวารและมะเร็งลำไส้ใหญ่ กรดไขมันสายกลางช่วยทำให้หน่วยกรองของไตกลับมาทำงานได้ดีขึ้น การขับปัสสาวะเป็นปกติขึ้น กรดอัลลฟ่าไลโปอิคช่วยกำจัดสารพิษ โลหะหนัก เช่น ปรอท ตะกั่ว ออกจากร่างกายได้ดี
  13. ช่วยป้องกันต่อมลูกหมากโตสาเหตุมะเร็งต่อมลูกหมาก มีงานวิจัยว่าฮอร์โมนเพศชายเป็นสาเหตุสำคัญ โดยเฉพาะ DHT ซึ่งเป็นสารที่เกิดจากการเปลี่ยนฮอร์โมนเทสทอสเตอโรนโดยอาศัยเอนไซม์ 5-ALPHA-REDUCTASE(DHT)ออกฤทธิ์ ทำให้เกิดภาวะต่อมลูกหมากโต/อักเสบ/มะเร็ง และสาเหตุศีรษะล้าน เริ่มมีอาการตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไป และจะมีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆตามอายุที่มากขึ้น สารอาหารสำคัญที่อยู่ในน้ำมันรวมและกรดไขมันสายกลางจะไปช่วยลดภาวะของ DHT ให้ลดลงได้ทำให้อาการต่างๆที่เป็นอยู่ดีขึ้นโดยลำดับ
  14. ช่วยปรับสภาพสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย ในน้ำมันสกัดรวมมี Omega 3 ที่ไปช่วยไม่ให้ Omega 6 มีมากเกินไปในร่างกาย สาเหตุของการอักเสบต่างๆ รวมทั้งภาวะฮอร์โมนทำงานผิดปกติ วิตามิน E, Q10 ช่วยลดอาการแปรปรวนต่าง ๆ ของคนวัยทองหรือหมดประจำเดือน ทั้งหมดที่มีอยู่ในน้ำมันสกัดรวมจะช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกายทำงานได้ที่ขึ้น ลดอาการ